Tuesday, November 26, 2013

[AF] UNKNOWN







Story below is fictitious. We only created it just for fun.




Oz H Star #3060









_______________________________________________________________




มันก็เหมือนเช้าในวันทั่วไปของคราทอส เมืองฟีนิกซ์ยังคงมีหิมะโปรยตกสูงท่วมขา ท้องฟ้ายามเช้าแสดูหม่นมัวเล็กน้อยด้วยเมฆหมอกสีเทาอ่อน อากาศเย็นยังคงทำหน้าที่กัดผิวสิ่งมีชีวิตได้ดีนัก
                ชายหนุ่มเดินกอดอกก้มหน้าซุกหาไออุ่นจากผ้าพันคอด้วยความหนาว รีบสาวเท้าเดินมุ่งหน้าไปยังคอกเฟรอุสเงียบๆ
                ลมเย็นพัดวูบแทรกผ่านเข้าตามเสื้อผ้า เศษกระดาษใบปลิวเก่าลอยล่องระเรี่ยพื้นหิมะมาชนขาเขา มีอักษรแดงใหญ่จั่วหัว ดึงดูดสายตาให้กวาดอ่านเนื้อหาสั้นๆที่เหลือเร็วๆ ใจความกล่าวเตือนให้ระวังเกี่ยวกับบุคคลอันตรายปริศนาที่มีหน้าตาคล้ายคลึง คนสำคัญ และฆ่าได้ทันทีหากพบเจอ
                เขาเคยได้ยินเรื่องของการปรากฏตัวของแฝดดอพเพลแกงเกอร์มาอยู่บ้าง แต่มันก็เหมือนกับเวลาฟังนิทานกล่อมนอนจากผู้ใหญ่ น่าเชื่อครึ่งและไม่เชื่อครึ่ง แน่ล่ะเขาไม่เคยเจอโชคร้าย(*มีความเชื่อว่าดอพเพลแกงเกอร์นำมาซึ่งลาง ร้าย)แบบนั้นมาก่อน ย่อมไม่รู้สึกว่ามันเป็นเรื่องที่มีมูลความจริงแต่อย่างใด
                ลมแรงพัดเข้ามาอีกวูบ พร้อมฝุ่นผงหิมะที่ปะทะเข้าใบหน้า เขาหลับตาหลบเศษน้ำแข็งโดยอัตโนมัติ เมื่อลืมตาขึ้นอีกที กระดาษใบก็ถูกพาปลิวขึ้นไปบนฟ้าเสียแล้ว
                ชายหนุ่มไหวไหล่แบบไม่ใส่ใจนักแล้วก้าวเดินเข้าไปยังคอกขนาดใหญ่ยักษ์พอสำหรับเฟรอุสให้นอนขดหลบลมสบายๆ
                เฟรอุสสีขาวเผือกตื่นรอคอยมองเขาอยู่แล้ว
                เขาเดินผ่านไม้กั้นคอกของเฟรอุสตัวอื่น สายตาทอดไปดูเฟรอุสตัวเล็กของใครบางคน(?) จากนั้นก็สาวเท้าไปหาอินเวร์โนของเขา
                แม้วันนี้อากาศจะทึบทึมไปหน่อยสำหรับการบิน แต่หากไม่พาเวร์โนไปสยายยืดเส้นสายสักหน่อยก็คงไม่ดีนัก เวร์โนเองก็ดูกระตือรือล้นอยากออกไปทำอะไรบ้าง เขาเดินพาเวร์โนออกข้างนอก และเช็คอุปกรณ์ที่ต้องใช้ขึ้นบินก่อนจะพบว่าลืมไว้บางส่วนในห้องทำงาน (มันจะใช้อัลไลย์กันคะ /แค่อานไม่ใช่หรา /เอาน่าหยวนให้หน่อย)
                ระยะทางเดินไปกลับคงใช้เวลาสักพัก เขาเลยบอกให้เวร์โนไปบินเล่นใกล้ๆก่อนก็ได้ จากนั้นก็เดินกลับไปหาของที่ต้องการ
                ชายหนุ่มเดินกลับมา เสียงก้าวเท้าย้ำหิมะดังกรอบแกรบเบาๆดังเป็นจังหวะ ก่อนที่จะมีเสียงฝีเท้าหนึ่งดังซ้อนขึ้นมาข้างหลังเขา
                เขาหันกลับไปมองโดยสัญชาตญาณทันที
                ผิวขาวกับโครงหน้าที่คุ้นเคยปรากฏชัดแก่สายตาในชุดเครื่องแบบ พร้อมกับมุมปากที่ยกยิ้มเล็กๆให้เขา
                ...ชายหนุ่มยิ้มตอบกลับโดยอัตโนมัติ เอ่ยทักทายคนตรงหน้าด้วยความยินดีที่ผุดล้นขึ้นมาด้วยช่วงเวลาหลังคริสมาสต์ ที่ผ่านมาทั้งสองไม่มีโอกาสใช้เวลาร่วมกันนัก (สมน้ำหน้าอยากง่าวไปโดนยิงพรุนเอง . __ . ) /ด่าลูกตัวเอง)
                เขาก้าวเท้าไปหาพร้อมสวมกอดคนตัวเล็กกว่าที่ดูชะงักไปเล็กน้อยแต่ก็ยืนนิ่งเรียบร้อยยินยอมโดยดี
                เขาเอ่ยถามความสงสัยที่ผุดขึ้นในใจว่าว่างหรือไรก่อนได้รับคำตอบด้วยเสียงนว ลนุ่มๆอ้อนๆที่ไม่ตรงคำถามว่า คนตรงหน้าคิดถึงเขา
                ความรู้สึกอิ่มเอมเอ่อขึ้นมาพร้อมกับความตะขิดตะขวงใจที่แฝงเข้ามา แต่เขาเลือกที่จะปัดมันออกไป
                ร่างเล็กจับมือเขาจูงพร้อมดึงเบาๆและเอ่ยขอให้เขาตามไปด้วยกันอย่างน่ารัก
                เขาก้าวเท้าตามไปโดยอัตโนมัติ มองคนข้างหน้าตนด้วยความรู้สึกที่ไม่มั่นใจเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ พลันในหัวก็ฉุดคิดถึงกระดาษคำเตือนที่เจอมา แต่ก็สะบัดหน้าพยายามไล่ความคิดนั้นออกไป เขาตัดสินใจเอ่ยขอไปหาเวร์โนก่อนเพื่อยืดระยะเวลาที่ไม่สบายใจนี้
                อีกฝ่ายรีบสวนคำตอบเสียงแข็งปฏิเสธกลับมาทันที
                ...เขาไม่สบายใจเสียแล้ว ตัดสินใจหยุดยืนเพื่อยืนยันว่าตนต้องการไปหาเฟรอุส
                ร่างตรงหน้านิ่งไปก่อนจะหันมายิ้มให้แล้วฉุดดึงพาเข้าไประหว่างซอกตึกทันที
                มือเรียวเอื้อมโน้มใบหน้าเขาลงมาจนเกือบจะแนบกัน...ก่อนทุกอย่างจะชะงัก............

                เขากดคมมีดพับกับหน้าท้องคนตรงหน้า
                “เทอยู่ไหน?” เขาถาม ดันอีกคนที่ยังกอดคอเขาอยู่ออกห่าง
                “อย่าโง่ไปหน่อยเลย ผมอยู่นี่ไงครับ” ร่างเล็กตียิ้มละไมพยายามคลอเคลียเขา
                “ปล่อยครับคุณUnknown” เขาตอบปัด กดปลายมีดลงทะลุเนื้อผ้าขู่ เอื้อมมือดึงให้อีกคนปล่อยคอตน เหวี่ยงร่างอันโนนทิ้งอย่างแรง ทว่าไม่ทันเข็มที่ปลายนิ้วเรียวนั้นถือแน่นไว้อยู่ รอยขูดจากปลายเข็มทิ้งเป็นทางยาวพาดลงมาจากหลังคอเขา
                “ว้า.. รู้งี้อาบยาพิษด้วยดีกว่า ไม่น่าเป็นยานอนหลับเลย” นัยน์ตาสีอ่อนที่คล้ายคนรักเขาเปลี่ยนไปสะท้อนประกายสนุกสนานสะใจ ก่อนสะบัดมือส่งเงาสีดำแหลมคงใส่ เขากลิ้งตัวหลบพร้อมเหวี่ยงมีดเข้าใส่อีกอีกฝ่าย ปักลงที่ต้นขาพอดี
                “อั่ก!” อันโนนเซลงไปจับขาตัวเอง เขาใช้จังหวะนี้พุ่งตัวเข้าไปหมายแทง แต่อันโนนปาไฟร์บอลชะงักเขาไว้
                “…?!” เขาปิดตาก้มงอตัวลงหลบลูกไฟที่พุ่งเข้าหาเขาอย่างหลบไม่ทัน
                ไฟร์บอลนั้นทะลุผ่านเข้าไปเหมือนเป็นแค่สายลมพัดผ่านธรรมดา ไม่ร้อน ไม่เจ็บ
                แต่ก่อนที่จะได้ประมวลอะไรไปมากกว่านี้ อันโนนฉวยโอกาสที่เขานิ่งพุ่งกระแทกให้ล้มนอนหงาย สะบัดมีดหวังกรีด เขายกแขนกันไว้โดยอัตโนมัติ คมมีดเย็นบาดเฉี่ยวแถวเอวตวัดเป็นทางยาวลึกที่แขน
                “อุ..ฮิฮิฮิ” อันโนนหัวเราะคิกคัก นั่งคร่อมทับเขาไม่ให้หนี เงื้อมือขึ้นสูงก่อนแทงลงมา
                เคร้ง!!
            เขายกมีดดันกันไว้ได้พอดี อันโนนโถมตัวดันปลายมีดลงมาอย่างไม่ยอมแพ้พร้อมยิ้มที่ฉีกออกอย่างกึ่งสนุกกึ่งสะใจ
                “ยอมแพ้แล้วหลับลงไปซะดีๆเถอะ” อันโนนกระซิบบอกอย่างล่วงรู้ว่าความง่วงงุนค่อยๆคืบคลานมาหาเขาช้าๆ แขนและมือเขาเริ่มชาอ่อนแรงลงเล็กๆ
                เขากัดฟันฝืนลืมตาไว้อย่างไม่ยอม ในใจกระวนกระวายไปห่วงถึงอีกคนว่าจะเป็นอย่างไร
                แขนเขาเริ่มอ่อนกำลังลงมา ปลายมีดของอันโนนจ่อบาดที่ลำคอเขาลึกขึ้นที่ละนิด
                ฉึก!!
            เสียงของมีคมทะลุบาดเนื้อดังชัดเต็มหู นัยน์ตาเขาเบิกกว้างขึ้นอย่างรู้สึกตื่นด้วยความอุ่นของเลือดที่ไหลรดลงมาปลุกเขา
                เวร์โนยืนแยกเขี้ยวค้ำอันโนน กรงเล็บคมของเฟรอุสแทงทะลุร่างอันแน่นิ่งของอันโนน หยาดเลือดนั้นไหลหยดอาบกรงเล็บลงไปถึงขนสีขาวเผือก
                ...เขารอดแล้ว
                เวร์โนยกร่างอันโนนสะบัดออกจากกรงเล็บอย่างไม่ไยดี มันก้มหัวลงมาสำรวจอาการของเขาพลางช่วยดันให้ลุกขึ้นด้วยปลายจมูก
                เขาลุกขึ้นอย่างมึนงงปนง่วงนิดๆ เขายังมีห่วงที่ทำให้หลับไม่ลงอยู่
                ชายหนุ่มสั่งให้เฟรอุสเผือกไปรอที่คอก แรงกังวลดันให้เขาก้าวขาเดินออกไปเพื่อตามหาคนๆนั้น




_______________________________________________________________



สรุป: KILLER





No comments:

Post a Comment